อันดับแรก ขออธิบายประเภทของ Unit ในเกมก่อน เกมนี้จะแบ่ง Unit ออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- Battle Unit
เป็น Unit สำหรับใช้ต่อสู้ในเกม จะเป็นรูปหุ่นต่าง ๆ ในโลก Super Robot Wars
- Support Unit
เป็น Unit สำหรับใส่เพิ่มความสามารถให้กับ Battle Unit โดยปกติจะเป็นรูปคนขับ/ตัวละครรองจากซีรีย์ต่าง ๆ (มีอธิบายเพิ่มให้นิดหน่อย อยู่ด้านล่างสุดของบทความนี้)
- Battle Ship Unit
เป็น Unit สำหรับใช้เลือกยานรบ สำหรับใช้ลงด่านในโหมด PVE โดยยานแต่ละลำจะมีความสามารถแตกต่างกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการลงด่านแต่ละด่านได้
- Reinforcement Unit
เป็น Unit สำหรับใช้เพิ่มค่าประสบการณ์ของหุ่น,ใช้อัพ Lv.ท่าไม้ตาย,ใช้เพิ่มขีดจำกัดหุ่น เป็นต้น
***ดูรายชื่อ/รายละเอียด Battle Unit ทั้งหมด ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
***ดูรายชื่อหุ่นแนะนำ (โดยผมเอง) ได้ที่นี่--> Unit Recommended
ความหายาก
อันดับแรกที่อยากให้รู้จัก คือ ความหายากของ Unit ซึ่งอาจจะบอกความหมายได้ตรงตัวง่าย ๆ ก็คือ หุ่นตัวไหนยิ่งหายากยิ่งเก่ง หรือ ยิ่งหายากยิ่งดีนั่นเอง โดยเกมนี้แบ่งความหายากออกเป็น
ระดับ | ความหายาก | Lv. Max (ปกติ) |
C | Common | 20 |
UC | Uncommon | 30 |
R | Rare | 40 |
SR | Super Rare | 50 |
SSR | Super Super Rare | 60 |
โดยสัญลักษณ์แสดงระดับ จะโชว์บนไอคอนหุ่น พร้อมสีของแต่ละระดับ ซึ่งปัจจุบัน Unit ที่อยู่ในระดับนำมาใช้ได้ ก็คือ Unit ที่เป็นระดับ SSR (แต่ Unit ระดับ R, SR บางตัวก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง) ดังนั้น ในที่นี้ เราจะไม่พูดถึงหุ่นระดับอื่น นอกจากระดับ SSR นะครับ
หุ่นที่มีความสามารถในการพัฒนาระดับ "สูงพิเศษ「大器」"
(หรือ เรียกกันในกลุ่มว่า "หุ่นจุติ","ไทคิ")
นอกจากความหายากแล้ว หุ่นแต่ละตัวจะมีความสามารถในการพัฒนา Stat เมื่อ Lv. สูงขึ้นอยู่ 2 แบบ คือ แบบปกติ และ แบบสูงพิเศษที่จะเพิ่ม Stat แบบก้าวกระโดด โดยใน ver.3.0 นี้ เราสามารถดูได้ง่าย ๆ ว่าหุ่นตัวไหนเป็นหุ่นจุติ โดยดูที่ไอคอนรูปหุ่น ที่จะมีลักษณะเรืองแสง ดังตัวอย่าง
และตรงหน้า Status หุ่น จะแสดงคำว่า 「大器」 สีเหลือง
ข้อแตกต่างระหว่างหุ่นธรรมดา กับ หุ่นจุติ ขอยกตัวอย่าง Stat ของหุ่น Sehagarion ที่มีทั้งแบบธรรมดา และจุติ โดยตัวจุติ จะมี ◇ ต่อท้ายชื่อเพื่อให้เห็นความแตกต่างครับ
- ตัวอย่าง Stat ของหุ่น Sehagarion
Total HP ATK DEF AGI Lv.1 4040 2440 1600 950 2590 Lv.60 10930 6950 3980 3090 4920 LV.80 12430 7950 4480 3590 5420 อัพเต็ม 16030 10350 5680 4790 6620 - ตัวอย่าง Stat ของหุ่น Sehagarion◇
Total HP ATK DEF AGI Lv.1 4040 2440 1600 950 2590 Lv.60 10930 6950 3980 3090 4920 Lv.80 19930 10950 8980 4760 9920 อัพเต็ม 23530 13350 10180 5960 11120
***หุ่นที่มาเป็นพิเศษเฉพาะช่วงที่มีการโคกันจากเรื่องภายนอก เช่น Sakura Taisen, Idol Master เวลามีหุ่นให้เปิดตู้ มักจะมาในรูป "หุ่นจุติแบบต้องแตกก่อน" คือ เมื่อเปิดได้ จะมาเป็นหุ่นธรรมดา แต่หากเราแตก 2 และอัพเลเวลจนเป็น 70 แล้ว จะปลดอบิสุดท้ายได้ จะมีแจกหุ่นตัวเดียวกัน แต่เป็นเวอร์ชั่นจุติ (ชื่อมี ◇ ต่อท้าย) พร้อมหินย้าย 1 ก้อน เพื่อให้เราเอาหุ่นธรรมดาที่ทำ Lv.70 แล้วมาให้ตัวจุติกิน จะได้กลายเป็น "หุ่นจุติ แตก 3 (Lv.Max=75)" แทน
สายของหุ่น
เกมนี้แบ่งหุ่นออกเป็น 5 สาย คือ
- หม้ด (Attacker) เป็นสายต่อสู้ระยะประชิด เน้นการโจมตี (มักจะโจมตีเร็วกว่าสายอื่น) ถ้าโจมตีใส่สายโล่ จะโจมตีแรง 1.5 เท่า
- โล่ (Defender) เป็นสายต่อสู้ระยะประชิด มักจะถึกกว่าประเภทหมัด แต่มักจะช้า แต่เวลาโดนสายยิงโจมตีจะติดการ์ดเสมอ (ลดความเสียหายลง) และโจมตีใส่สายยิงแรง 1.5 เท่า
- ยิง (Shooter) เป็นสายโจมตีระยะไกล (มี 2 แบบ คือ ยิงได้สุดฉากเลย กับ ประมาณครึ่งฉาก) อยู่ที่ฝั่งตัวเองก็สามารถยิงโจมตีคู่ต่อสู้ได้ ถ้ายิงใส่สายหมัด จะโจมตีแรง 1.5 เท่า และ ทำให้กระเด็นด้วย
- ต่อสู้ (Fighter) เป็นสายต่อสู้ระยะประชิด ประมาณว่าผสมผสานกันระหว่างสายหมัด+โล่ มีข้อดี คือ เวลาโจมตีธรรมดาในโหมด PVE จะโดนศัตรู 3 ช่องหน้า (ด้านบน/ล่างด้วย) และเมื่อโดนยิงแล้วจะติดการ์ดเหมือนสายโล่ โจมตีสายบลาสเตอร์แรง 1.5 เท่า และ สายหมัด/โล่/ยิง แรง 1.25 เท่า
- บลาสเตอร์ (Blaster) เป็นสายต่อสู้ระยะไกลเหมือนสายยิง
แต่เพิ่มความสามารถขึ้นมา โดยเมื่อยิงใส่ศัตรูจะทำให้กระเด็นได้ทุกสาย และ
ถ้าโจมตีใส่สายต่อสู้ จะโจมตีแรง 1.5 เท่า
ความสัมพันธ์ของแต่ละสาย
***หุ่นแต่ละตัว อาจมีได้มากกว่า 1 แบบ เช่น Z Gundam ระดับ SSR มีทั้ง สายหมัด,สายยิง,สาย Fighter เป็นต้น หรือ ตัวออริในรูปตัวอย่างด้านล่าง
คุณสมบัติพื้นฐานของหุ่น
เราสามารถกดดูรายละเอียดของหุ่นแต่ละตัวได้ โดยกดค้างที่ไอคอนหุ่นตัวนั้น ๆ โดยหน้าแสดงคุณสมบัติ จะแบ่งออกเป็น 2 โหมด
- โหมด PVE
- ความหายาก
- สายของหุ่น
- มูลค่าที่ใช้ในการเอาลงทีม
- ล็อคไว้ (กันถูกเอาไปขาย หรือ เอาไปให้ตัวอื่นกิน)
- ความสามารถเมื่อเป็น Leader (Leader Skill) จะแสดงเมื่อใส่ Pilot Part ไว้ที่หุ่น (กดใส่ได้ที่ปุ่มด้านขวาล่าง) เมื่อกดที่ตัว L จะสามารถดูรายละเอียดของผลที่ได้จากการใช้คนขับนี้เป็น Leader ได้
- แสดงชื่อหุ่น, ชื่อการโจมตีปกติ และ ชื่อคนขับ ตามลำดับ
- สัญลักษณ์แสดงว่าหุ่นนั้น "บินได้"
- สัญลักษณ์แสดงว่าการโจมตีเป็นแบบ "บีม" หรือไม่
- ปุ่มกดใส่ Pilot Part
- กดฟังเสียง (กรณีที่ใส่ Pilot Part ที่มีเสียงพากย์)
- เปลี่ยนไปดู Status สำหรับโหมด PVP (Arena)
ส่วน B
- Level ขณะนี้/Level สูงสุด และ จำนวน EXP ที่ต้องการในการอัพ Level
- จำนวนขั้นของการปลดความสามารถหุ่น (การแตก)
- แสดงระดับพลังรวมของหุ่น (ตอนนี้แสดงเป็นค่า HP+พลังโจมตี) 4-7 จะแจกแจงพลังในแต่ละด้าน (กดปุ่มด้านขวาเพื่อดูรายละเอียด)
- HP
- พลังโจมตี (攻撃)
- เกราะ (装甲)
- การเคลื่อนไหว, หลบหลีก (運動性)
- ท่าไม้ตาย แสดงชื่อท่า, ระดับความแรงท่าไม้ตาย (Max=Lv.6) และ จำนวน Core ที่ต้องใช้ สามารถกดเลือกท่าหรืออ่านรายละเอียดของท่าได้ที่ปุ่มด้านขวา ปกติหุ่นแต่ละตัวจะมีท่า 1-3 ท่า
- พลังจิตของคนขับ (Spirit)
สามารถเลือกพลังจิตที่จะใช้หรืออ่านรายละเอียดได้ที่ปุ่มด้านขวา
โดยปกติหุ่น 1 ตัวจะมีพลังจิต 3 อย่าง โดยจะได้เพิ่มตาม Lv ของหุ่นที่กำหนด
สามารถดูรายชื่อ Spirit ที่มีในเกมได้ ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น) - ความสามารถพิเศษของหุ่น (Ability) แสดงเป็นไอคอน
สามารถกดดูรายละเอียดของความสามารถพิเศษแต่ละอย่างได้ที่ปุ่มด้านขวา
(สีทึบคือยังใช้ไม่ได้ ต้องทำ unit quest ผ่านถึงจะใช้ได้) โดยปกติระดับ
SSR จะมี Alibity ตัวละ 4 อย่าง
สามารถดูรายชื่อ Ability ที่มีในเกมได้ ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
ส่วน C
- ความเร็วในการเคลื่อนที่ (超高速>高速>普通>低速>超低速 เรียงจากเร็วไปช้าสุด)
- ขนาด (LL>L>M>S>SS)
- ความถี่ในการโจมตี (超高速>高速>普通>低速>超低速 เรียงจากเร็วไปช้าสุด)
- ความสามารถในการพัฒนา (普通 แบบธรรมดา หรือ 大器 สูงพิเศษ/หุ่นจุติ)
- ความถนัดในสภาวะแวดล้อมแบบ ท้องฟ้า, พื้นดิน, ในน้ำ, อวกาศ (S>A>B>C)
- Part เสริมความสามารถ (กดปุ่มด้านขวาเพื่อเลือกติดตั้ง Part, แลกเพิ่มได้ที่เมนู M-Trader)
- จำนวน Slot สำหรับติดตั้ง Part (1 ตัว ใส่ได้ 3 ชิ้น แต่ใส่ได้ไม่เกิน Slot ที่มี)
- Full upgrade Bonus ที่ได้รับเมื่ออัพเกรดหุ่นเต็ม
ส่วน D
- รายชื่อ Unit Quest (สำหรับใช้อัพ Ability หุ่น)
- ชื่อ Series ของตัวละคร
- Sub Pilot (ตอนนี้โชว์ชื่อเฉยๆ ไม่มีอะไร)
- โหมด PVP (ไต่หอ, Arena)
ส่วน E (สำหรับโหมด PVP)
- Level ขณะนี้/Level สูงสุด และ จำนวน EXP ที่ต้องการในการอัพ Level
- จำนวนที่กำจัดคู่ต่อสู้ได้?
- HP
- พลังโจมตี (攻撃)
- เกราะ (装甲)
- การเคลื่อนไหว, หลบหลีก (運動性)
- Speed ในการถึงเทิร์น (行動力)
- อัตราการเกิด Critical
- ความแรงของ Critical
- ความสามารถในการทำให้สถานะผิดปกติ?
- ความสามารถในการป้องกันสถานะผิดปกติ?
- อัตราความแม่นยำ
- อัตราการหลบหลีก
- อัตราการบล็อก
- ขนาด (LL>L>M>S>SS)
- ความถนัดในสภาวะแวดล้อมแบบ ท้องฟ้า, พื้นดิน, ในน้ำ, อวกาศ (S>A>B>C)
ส่วน F (สำหรับโหมด PVP)
- ท่าไม้ตาย แสดงชื่อท่า, ระดับความแรงท่าไม้ตาย (Max=Lv.6) และ จำนวน
Core ที่ต้องใช้
สามารถกดเลือกท่าหรืออ่านรายละเอียดของท่าได้ที่ปุ่มด้านขวา
***อาจมีรายละเอียดแตกต่างกับโหมด PVE - ทักษะของคนขับ (Skill) สามารถกดเลือกทักษะหรืออ่านรายละเอียดได้ที่ปุ่มด้านขวา
***อาจมีรายละเอียดแตกต่างกับโหมด PVE สามารถดูรายชื่อ Spirit (PVP) ที่มีในเกมได้ ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น) - ความสามารถพิเศษของหุ่น (V-Ability) แสดงเป็นไอคอน
สามารถกดดูรายละเอียดของความสามารถพิเศษแต่ละอย่างได้ที่ปุ่มด้านขวา
(สีทึบคือยังใช้ไม่ได้ ต้องไปกดดู unit Scenario ก่อนถึงจะใช้ได้)
***อาจมีรายละเอียดแตกต่างกับโหมด PVE สามารถดูรายชื่อ Ability ที่มีในเกมได้ ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
ส่วน G (สำหรับโหมด PVP)
- เปิดเมนูสำหรับช่วยในการจัด V-Part
- เลือกใส่ V-Part
- ดูคุณสมบัติ V-Part ที่ใส่/อัพเกรด
- Bonus ของ Set V-Part ที่ใส่
การปลดขีดจำกัดหุ่น (การแตก)
ถ้าเราได้หุ่นตัวเดียวกันมาซ้ำกัน (แม้จะเป็นคนละสายก็ตาม) เราสามารถเอามาใช้ปลดขีดจำกัดหุ่นของเราได้ โดยเอาตัวที่ซ้ำมาให้ตัวหลักกิน (ดังตัวอย่างในรูป) หุ่นซ้ำ 1 ตัว จะทำให้ปลดขีดจำกัดหุ่นได้ 1 ขีด (สูงสุด 4 ขีด) และ
- Lv. Max ของหุ่นจะเพิ่มอีกครั้งละ +5 Level
- เพิ่มขีดจำกัดการเสริมพลังหุ่นเพิ่มได้อีกพารามิเตอร์ละ 1 ช่อง
***หุ่นบางตัวดูเผินๆ เหมือนเป็นตัวเดียวกัน แต่กินกันไม่ได้ อาจเกิดจากหุ่นบางตัวเป็นหุ่นชุดเทศกาล (ชุดว่ายน้ำ, ชุดนอน, วาเลนไทน์ เป็นต้น) วิธีดูว่าตัวไหนเอามาแตกได้ ให้ลองเลือกหุ่นที่ต้องการมาเป็นตัวตั้งไว้ เวลาเลือกหุ่นมากิน ตัวที่เอามาแตกได้จะขึ้นข้อความดังรูปด้านล่าง และมันจะเลื่อนตำแหน่งมาวางข้างบนให้เราเลือกได้เลย
***นอกจากใช้หุ่นซ้ำกันมากินเพื่อปลดขีดจำกัดหุ่นแล้ว เราสามารถใช้ "หินแตก" เพื่อเอามาใช้แตกหุ่นตัวไหนก็ได้อีกด้วย (หาได้จากการซื้อแพคด้วยเงินจริง ซึ่งเป็นโปรที่ถือว่าคุ้มที่สุด, แลกจากรางวัล Arena ได้เดือนละ 1 เม็ด, รางวัลไต่หอ เดือนละ 1 เม็ด, รางวัล VS Battle เดือนละ 1 เม็ด) โดย 1 เม็ดสามารถแตกได้ 1 ขีด
เกี่ยวกับท่าไม้ตายของหุ่น
หุ่นแต่ละตัวจะมีท่าไม้ตายให้ 1-3 ท่า โดยเราจะสามารถเลือกใช้ได้ทีละ 1 ท่า (ปัจจุบันไม่สามารถเพิ่มท่าได้ หมายถึง ถ้าหุ่นที่ได้มา มี 1 ท่า ก็จะมีแค่ 1 ท่าไปตลอด)
เวลาเราดูความสามารถของท่า จะดูได้ 2 โหมด คือ
ส่วนตัวเวลาผมดูรายละเอียดท่าเพื่อเปรียบเทียบกับหุ่นตัวอื่น ๆ จะดูที่โหมด PVP เป็นหลักมากกว่า เพราะส่วนใหญ่ของโหมด PVE จะไม่เขียนอะไรมาก อันนี้ก็ลองให้ดูตามความต้องการของแต่ละท่านเลยว่าต้องการท่าลักษณะไหน
ระบบใหม่ ท่าแบบ Ω (หรือเรียกว่า Ω Skill)
เป็นระบบใหม่ที่เพิ่มมาใน v.3.0 โดยจะมีหุ่นแบบพิเศษ ที่มาพร้อมท่า Ω ซึ่งหากเราสามารถหาหุ่นแบบนี้มาได้แค่ 1 ตัว ก็จะเป็นหุ่นธรรมดา แต่ถ้าเราหาตัวซ้ำมากินได้ จะเป็นการปลดล็อคท่า Ω ซึ่งมีฉากคัทอินเวลาใช้สวยงาม (ดังตัวอย่าง) โดยทางทีมงานบอกว่า จะเป็นท่าที่เหมือนของเดิม แต่ใช้คอร์เพิ่มขึ้น โดยจะทำให้มีคุณสมบัติดีขึ้น เช่น ยิงโดนทั้งจอ (ในโหมด PVP) หรือ ติดสถานะมากขึ้น เป็นต้น
ตัวอย่างการทำ Ω Skill
ในรูปเป็น Strike Freedom Gundam[Ω]
เมื่อนำตัว [Ω] ซ้ำมากิน (สังเกตสัญลักษณ์ที่หุ่นตัวแรกจะมีคำว่าเปิด Ω Skill)
ท่าไม้ตายก็จะเปลี่ยนเป็นท่าแบบ [Ω] พร้อมเอฟเฟควิ้งๆที่ไอคอนหุ่น
เกี่ยวกับอบิลิตี้ของหุ่น
อาจจะเรียกได้ว่า เป็นส่วนหลักที่ใช้วัดว่าหุ่นตัวนี้เก่งไม่เก่งได้เลยทีเดียว เพราะถ้าไม่นับอบิลิตี้แล้ว หุ่นแต่ละตัวก็เหมือนๆกัน ต่างกันแค่ Stat หรือ ความเร็วในการเดิน การโจมตีอะไรแบบนี้เท่านั้น แต่อบิลิตี้จะทำให้หุ่นตัวนั้นมี Stat บางค่าเพิ่มขึ้น, มีคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ เช่น โจมตีแล้วมีโอกาส Stun, สามารถแยกร่างหลบศัตรูได้, ฮีลเพื่อนในทีมได้ เป็นต้น
อบิลิตี้หุ่นจะแสดงอยู่ด้านล่างของหน้าแสดงรายละเอียดหุ่นทั้งโหมด PVE และ โหมด PVP (สำหรับโหมด PVP จะเรียก v-ability) แต่สำหรับโหมด PVP จะมี EX-ability เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นอบิลิตี้พิเศษ ที่จะใช้ได้เมื่อเรามีการ "แตก 2" (กินตัวซ้ำ 2 ตัว) หุ่นตัวนั้นซะก่อน
***กดปุ่มสีน้ำเงินด้านขวา เพื่อดูรายละเอียดของอบิแต่ละอัน โดยอบิลิตี้ PVE มักจะเขียนอย่างง่ายๆ ส่วนอบิลิตี้ของ PVP จะมีรายละเอียดมากกว่า (แต่ใช้ด้วยกันไม่ได้นะ เช่น หุ่นที่มี v-ability ฮีลเพื่อนในทีม แต่ไม่มีใน PVE ก็จะใช้ไม่ได้) ตรงนี้ก็เลือกตามความต้องการของแต่ละท่านเช่นกัน
โดยปกติแล้ว หุ่น SSR จะมีอบิลิตี้ 4 อย่าง และโดยทั่วไป
- อบิลิตี้แรก จะมีติดตัวมาเลย
- อบิลิตี้ที่ 2 ปกติจะปลดล็อคที่ Lv.10
- อบิลิตี้ที่ 3 ส่วนใหญ่จะปลดล็อคที่ Lv.25
- อบิลิตี้ที่ 4 หุ่นทั่วไปส่วนใหญ่จะปลดล็อคที่ Lv.50
***สำหรับหุ่นรางวัลอีเว้นท์ต่าง ๆ ที่มีชื่อติดดาว (☆) เพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นอยากสะสมให้แตก 4 และเป็นหุ่นที่ได้มาโดยการเล่นอีเว้นท์ได้ จึงมักจะกำหนดให้ต้องอัพจน Lv.80 จึงจะสามารถใช้อบิลิตี้ได้ครบ
***หุ่นที่เปิดจากตู้การันตี 30 เม็ด (เปิดได้วันละครั้ง) ที่มาในอีเว้นท์ต่าง ๆ มักจะต้องปลดอบิลิตี้สุดท้ายที่ Lv.70
เมื่อเราอัพเลเวลจนถึงที่กำหนดแล้ว สามารถกดปุ่มสีน้ำเงินข้างบน เพื่อเข้าไปดู Unit Scenario เพื่อปลดอบิลิตี้นั้นได้
ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! อย่าลืมทำให้ครบทุกตัวนะครับ
การอัพเลเวลหุ่น
- เราสามารถเอาหุ่นที่ไม่ใช้ หรือ หินอัพ EXP (ดังรูปตัวอย่างข้างบน) มาอัพหุ่นได้ที่เมนูนี้
- ของอัพเลเวล หาได้จากการผ่านด่าน, mission ต่าง ๆ และ รางวัลจาก Event
- ค่าอัพเลเวลแต่ละครั้งคิดจาก จำนวนของที่ใช้อัพ x Lv.ปัจจุบัน x 100 ดังนั้น ยิ่งเลเวลสูง ยิ่งใช้ค่าอัพมาก
- การอัพเลเวลแต่ละครั้ง ถ้าใช้หุ่น (ตัวไหนก็ได้) ในการอัพ นอกจากได้
EXP แล้ว จะมีโอกาส เพิ่ม Lv.ท่าไม้ตายด้วย (อยู่ด้านขวาของรูปตัวอย่าง)
โดยมี 2 ส่วนคือ Lv.ไม้ตายสำหรับโหมดปกติ และ Lv.ไม้ตายสำหรับ PvP
***บางครั้งโอกาสติด Lv.ไม้ตาย 1% ก็ติดได้ ในขณะที่บางกรณี 98% ไม่ติดก็มีเช่นกัน! - การอัพเลเวลแต่ละครั้ง ถ้าใช้หินอัพเลเวลไม้ตายในการอัพ จะมีโอกาส เพิ่ม Lv.ท่าไม้ตายอย่างเดียว ไม่ได้ EXP โดยหินที่ระดับสูงขึ้นใช้สำหรับอัพไม้ตาย Lv. ที่สูงขึ้นตามลำดับ โดยปกติจะใช้ตามนี้
- Lv.1-->2 ใช้ ระดับ C 1 ก้อน
- Lv.2-->3 ใช้ ระดับ UC 1 ก้อน
- Lv.3-->4 ใช้ ระดับ R 2 ก้อน
- Lv.4-->5 ใช้ ระดับ SR 2 ก้อน
- Lv.5-->Max ใช้ ระดับ SSR 2 ก้อน
- บางครั้ง เวลาอัพเลเวลหุ่นหากโชคดีจะได้รับการเบิ้ลค่า XP เป็น 1.5 เท่า โดยจะขึ้นคำนี้
- เราสามารถเสริมพลังความสามารถหุ่นในแต่ละด้านได้ที่เมนูนี้ โดยใช้กล่องเขียว (เรียกแบบนี้แล้วกันนะ) ที่เก็บจากการเคลียร์ด่าน หรือ รางวัลจาก mission ต่าง ๆ (ลักษณะเดียวกับเกม SRW ทั่วๆไป)
- เมื่อมีการเพิ่มขีดจำกัดหุ่น (แตก) แต่ละครั้ง จะสามารถเสริมพลังให้หุ่นได้เพิ่มอีกครั้งละ 1 ขีด (รวมแตก 4 ครั้ง ก็เพิ่มได้อีก 4 ขีด)
- เมื่อเสริมพลังจนเต็มทั้งหมด จะได้รับโบนัสการเสริมพลังให้เราเลือกเพิ่ม Status ได้ 1 อย่างเป็นพิเศษ โดยหุ่นแต่ละระดับจะได้โบนัสเพิ่มไม่เท่ากัน และ หุ่นบางตัวจะมีโบนัสมากเป็นพิเศษ
***เลือกแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะจ๊ะ
ในการจัดทีม โดยปกติทีมหนึ่ง ๆ จะประกอบด้วย
- หัวหน้าทีม (Leader) 1 ตัว (ตัวแรกในทีม)
- ลูกทีมสำหรับลงต่อสู้ สูงสุด 3 ตัว
- ลูกทีมสำรอง (รออยู่ในยานแม่) สูงสุด 2 ตัว
- ยานแม่ 1 ลำ
***หุ่นที่เอาลงแต่ละตัว สามารถติดตั้ง support unit เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถต่าง ๆ ได้ (ใครมือถือจอเล็กต้องจิ้มให้โดนตรงช่องเล็ก ๆ ข้าง ๆ หุ่น อาจจะกดลำบากหน่อย)
***หุ่นที่ตั้งเป็นหัวหน้าทีม ถ้ามี Pilot Part ติดตั้งไว้ด้วย จะได้รับโบนัสทีมด้วย
- แต่ละ Unit ที่เอาลงไปในทีม จะมี "มูลค่า (Cost)" ในการใช้งาน โดยเราสามารถจัด Unit ลงไปในทีมได้ไม่เกินค่า Cost ที่เรามี (จะได้เพิ่มขึ้นเมื่อ rank ของผู้เล่นเพิ่มขึ้น)
- กรณีที่เราจัดทีมที่มี Cost รวมเกิน Cost ที่มี Status ของตัวละครจะถูกลดความสามารถลงตามปริมาณ Cost ที่จัดเกินไป คิดเป็น x% และ Support Ability จะใช้ไม่ได้
- เราสามารถจัดทีมเอาไว้ได้สูงสุด 10 ทีม และสามารถเลือกเปลี่ยนไปมาได้ตลอดเวลา โดยทีมที่เราติดดาวไว้ จะเป็น "ทีมหลัก" ที่ขึ้นโชว์มาเป็นทีมแรก
- หุ่นที่ถือว่าเป็นตัวเดียวกันไม่สามารถจัดลงทีมพร้อมกันได้ เช่น
- หุ่นตัวเดียวกันแต่ความหายากต่างกัน
- คนขับคนเดียวกัน
- หุ่นตัวเดียวกัน แต่คนละร่าง (กรณีที่ไม่ใช่หุ่นแบบผลิตจำนวนมาก)
- กรณีที่หัวหน้าทีม มีการติดตั้ง Pilot Part จะมีการเพิ่มความสามารถของลูกทีมในการเล่นด่านตามเงื่อนไขที่ระบุ เช่น เพิ่มพลังโจมตีเฉพาะในโหมดเนื้อเรื่อง เป็นต้น
- หุ่นระดับ C, UC, R อาจจำเป็นต้องมีเก็บไว้บ้าง โดยเฉพาะถ้าหากทีมเรายังมีค่า Cost น้อย ไม่สามารถใส่หุ่นระดับ SSR ได้ทั้งทีม โดยหุ่นที่นิยมใช้จะเป็นพวกมี สกิล หรือ อบิลิตี้ เพิ่มพลังหุ่นตัวอื่นได้นั่นเอง (เช่น Aphodite Ace, Metus)
อาจเป็นส่วนที่มีคนสับสนกันเยอะ
- Pilot Part คือ การเปลี่ยนรูปคนขับหุ่น ให้มีชุด หรือ ท่าทางเปลี่ยนไปจากเดิม บางตัวจะมีเสียงเวลาใช้ท่าเพิ่มขึ้นมาด้วย และโดยทั่วไปจะมีพลังจิต 3 อย่าง แตกต่างจากคนขับปกติ (บางทีก็ดีกว่า แต่บางกรณีพลังจิตเดิมก็มีประโยชน์กว่า ซึ่งถ้าอยากใช้อันเดิมก็ต้องถอด Pilot Part ออก)
- Pilot Part แต่ละตัวจะมี Leader Skill ที่จะมีผลให้เพิ่มความสามารถทีม เมื่อเราตั้งหุ่นตัวนี้เป็น Leader ของโหมดที่มันกำหนด
-Pilot Part นอกจากจะได้จากการทำเควสต่าง ๆ แล้ว สามารถหาได้จากหน้าแลก Pilot Part จาก Pilot Chip ซึ่งส่วนใหญ่จะได้แถมจากการเปิดตู้ Step (ปกติ ถ้าเปิดตู้ Step 111 เม็ด จะแถม 10 อัน), แจกตามอีเว้นท์ (ปกติจะแจกแค่ครั้งละ 1-2 อัน) โดยจะต้องใช้ Chip 10,20,30 Chip ในการแลก (จะลดราคาช่วงมาใหม่) - ส่วน Support Unit คือ ยูนิตสนับสนุน หรือ อาจจะประมาณว่า คนขับเสริม ใช้สำหรับเพิ่มความสามารถบางอย่างให้กับหุ่นที่เราเอาลงทีม โดยเราสามารถเลือกติด Support Unit ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวละครรองในซีรีย์ต่าง ๆ ให้หุ่นแต่ละตำแหน่งได้ 1 คน
*** Support Unit บางตัว มีเงื่อนไขการเพิ่มความสามารถเฉพาะ หุ่นบางตัว หรือ เฉพาะสายที่กำหนด, บางตัวแค่เอาไว้ในยาน (เป็นหุ่นสำรอง) ก็เพิ่มความสามารถได้
***เวลาจะใส่ Support ต้องกดจิ้มไปตรงรูปเล็ก ๆ ตรงนั้น ใครมือถือจอเล็กอาจจะลำบากหน่อย
ถ้าเรามี Pilot Part ที่จะใส่ได้อยู่จะขึ้นมาให้เลือก ดังรูป
สามารถกดค้างเพื่อดูรายละเอียดได้ จะมีรูปให้ดูว่า Part นี้ใส่หุ่นตัวไหนได้บ้าง มี Leader Skill อะไร มีพลังจิตอะไรบ้าง (กดดูตรงปุ่มน้ำเงิน)
ถ้าโอเคก็กดกลับมาแล้วกดเลือก (ใส่ครั้งแรกจะไม่ใช้เงิน แต่ถ้าใส่ไปแล้วถอดออกคราวนี้จะเสียเงินละ)
พอใส่เสร็จก็จะเปลี่ยนรูปใหม่ แบบนี้
ถ้าจะเข้าไปเลือกซื้อก็กดตรงเมนู Unit (เบอร์ 1) --> Pilot (เบอร์ 12)
ข้างบนเป็นหน้ารวม Pilot Part ที่มี ให้เลือกใส่ตัว ส่วนข้างล่างให้เลือกซื้อ
Credit: ข้อมูลและรูปบางส่วนจาก http://wiki.dengekionline.com/srw-x/, Official webstie
Last Updated : 20/10/17